เช่ากับซื้อที่ดิน อันไหนคุ้มกว่า

เช่าที่ดิน

ว่ากันด้วยเรื่องของ “การเช่าและการซื้อ” เป็นสิ่งที่ดีคนละแบบเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทุกๆ ท่านเลือกเป็นหลักเพราะสถานการณ์ของแต่ละท่านก็จะแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับการลงทุน “เช่ากับซื้อที่ดิน อันไหนคุ้มกว่า” สิ่งที่เราจะพาทุกๆ ท่านไปทำความเข้าใจพร้อมกับหาความรู้กันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันเลยดีกว่า…

เช่าที่ดินหมายถึงอะไร

การเช่าที่ดินนั้นจะต้องมีเรื่องของ “สัญญาเช่าที่ดิน” เกิดขึ้น ซึ่ง สัญญาเช่าที่ดินเป็นสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของสัญญาตอบแทนรูปแบบหนึ่ง โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย คือ ผู้เช่าและผู้ให้เช่ามีความสัมพันธ์ต่อกัน คือผู้เช่าต้องจ่ายค่าเช่า ส่วนผู้ให้เช่าต้องให้สิทธิ์ในการครอบครองที่ระบุในสัญญาเช่า โดยกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เช่าจะไม่โอนเป็นของผู้เช่า สัญญาเช่าจึงเป็นเพียงการตกลงเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ประโยชน์ตามเวลาที่ตกลงเท่านั้น ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ที่เช่านั้นจะไม่ตกเป็นของผู้เช่าเด็ดขาด นอกเสียจากว่ามีการตกลงซื้อขายกันภายหลัง โดยความหมายของ “ผู้เช่า” และ “ผู้ให้เช่า” มีดังนี้

  • ผู้เช่าคือ ผู้ที่มีหน้าที่จ่ายค่าเช่าตอบแทนแก่ผู้ให้เช่าตามจำนวนและเวลาที่กำหนดในสัญญาเช่า อีกทั้งผู้เช่ายังมีหน้าที่ต้องดูแลรักษาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองเช่า และคืนการครอบครองให้ผู้ให้เช่าเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันในสัญญาเช่า
  • ผู้ให้เช่าคือ ผู้ที่มีหน้าที่มอบสิทธิในการครอบครองให้ผู้เช่าตลอดระยะเวลาของการเช่า และสามารถกำหนดในสัญญาได้ว่าสิทธิการให้เช่านั้นเฉพาะอยู่ที่ผู้ให้เช่าเท่านั้น

ซึ่งผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แต่เป็นใครก็ได้ที่ได้รับมอบอำนาจหรือความยินยอมจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้นำทรัพย์นั้นออกให้เช่า

ข้อแตกต่างระหว่างการเช่าและการซื้อ

1.การซื้อเป็นจ่ายครั้งเดียวจบ แต่ใช้เงินทุนสูง

สิ่งแรกที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาว่าจะเช่าหรือซื้อสินทรัพย์ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โกดัง คลังสินค้า คือภาระระยะยาวและระยะสั้น ซึ่งแตกต่างกันระหว่างซื้อโรงงาน ซื้อโกดัง ซื้อคลังสินค้า และใช้บริการโรงงานให้เช่า คลังสินค้าให้เช่า โกดังให้เช่า หากเป็นการซื้อจะถูกจัดเป็นภาระระยะสั้น จ่ายครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียค่าเช่ารายเดือนหรือรายปี แต่เป็นการที่ท่านผู้ประกอบการต้องนำส่วนของเงินทุนก้อนใหญ่จ่ายออกมาเพื่อซื้อหรือสร้างโรงงาน โกดัง หรือคลังสินค้า ซึ่งควรมั่นใจว่าจะเหลือเงินหมุนเวียนไว้ใช้ในกิจการเพียงพอและมีพอสำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในด้านอื่นๆ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน รถขนส่ง เป็นต้น เช่นเดียวกับที่ดินที่ดีหากเช่าก็ต้องเสียเงินก้อนใหญ่เลยหล่ะครับ

2.ความต้องการในการใช้ที่ดินและภาระที่ต้องแบกรับ

เพราะการเช่าที่ดินพร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ นั้น เราจะเสียเพียงแค่ค่าเช่าและค่าบำรุงรักษาเพียงเท่านั้น แต่หากซื้อที่ดินปล่าวเราจะต้องลงทุนด้านอื่นๆ อีกมากมายเลยก็ว่าได้ครับ เพียงแต่จะสบายใจและสามารถทำอะไรได้หลากหลายกว่าเพราะไม่ติดสัญญาใดๆ นั้นเอง

การเลือกเช่าที่ดินที่ดีต้องดูอะไรบ้าง?

  • รายละเอียดของคู่สัญญาให้เรียบร้อย รายละเอียดต่างๆจะต้องลงให้ชัดเจนว่าใครคือผู้เช่าและผู้ให้เช่า พร้อมชื่อและข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียด เช่น ชื่อนามสกุล ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์ของตนเอง และคนที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
  • รายละเอียดของสินทรัพย์ที่มีการเช่า รายละเอียดของที่ดินจะประกอบไปด้วย ทำเลที่ตั้ง บ้านเลขที่ เลขที่โฉนด ขนาดของที่ดินที่ตกลงให้เช่า ซึ่งถ้าเป็นการให้เช่าบางส่วนจะต้องมีการแสดงเขตพื้นที่สำหรับการเช่าให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้เช่ารู้ว่าขอบเขตที่ดินที่ตนเองใช้ประโยชน์ได้มีแค่ไหน อีกทั้งยังป้องกันความเข้าใจผิดที่จะทำให้เกิดข้อพิพาท หรือการฟ้องร้องระหว่างกันได้ในอนาคต
  • รายละเอียดระยะเวลาที่ให้เช่าเพื่อความถูกต้อง เพราะระยะเวลาในการเช่าที่ดินนั้นมีความเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายต่างๆ ดังนั้นการทำสัญญาเช่าที่ดินนั้นต้องใส่ระยะเวลาในการเช่าให้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น การเช่าที่ดินระยะยาวเกิน 3 ปีต้องไปทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่ดิน เป็นต้น
  • อัตราค่าเช่าหรือค่าตอบแทนและวิธีการชำระให้ชัดเจน สัญญาต้องระบุค่าเช่าให้ชัดเจนแน่นอน พร้อมแจกแจงรายละเอียดด้วยว่าต้องชำระค่าเช่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ ชำระด้วยวิธีไหน กำหนดการชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน หรือรายปี รวมไปถึงในระหว่างสัญญานั้นจะมีการขอขึ้นค่าเช่าหรือไม่ ถ้าขอขึ้นค่าเช่าจะขึ้นเป็นเท่าไหร่ ในระยะเวลาไหน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เช่ากับซื้อที่ดิน อันไหนคุ้มกว่า” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันบทความข้างต้นนี้กัน คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่ดีกันนะครับ

About the Author

You may also like these