นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

อุตสาหกรรมของประเทศไทย นับว่าเป็นแห่งสร้างรายได้หล่อเลี้ยงคนไทยหลายครัวเรือน มีการแบ่งโซนการผลิต ส่งออกต่างๆ มากมาย อีกทั้งยังมีหลากหลายธุรกิจที่มีฐานการผลิตอยู่ภายในประเทศไทยอีกด้วยครับ วันนี้เราจะขอพาท่านผ่านไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “อุตสาหกรรมต่างๆ ” ที่สำคัญของประเทศไทยกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่าครับ

คำว่า “อุตสาหกรรม” คืออะไร?

อุตสาหกรรม เป็นคำจำกัดความที่ใช้กับกิจกรรมที่ใช้ทุนและแรงงาน เพื่อที่จะผลิตสิ่งของ หรือ จัดให้มีบริการ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ ในยุควิกตอเรีย นักประวัติศาสตร์เรียกช่วงเวลานั้นว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยมีการผลิตเครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ มากมาย และ ทำให้อุตสาหกรรมเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วและมีระเบียบ เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด นอกจากนี้ การปฏิวัติอุตสาหกรรมยังเกี่ยวของกับลัทธิสังคมนิยมของคาร์ล มาร์กซ (ลัทธิมาร์กซ) อีกด้วย

ในปัจจุบันอุตสาหกรรมถือเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อมนุษย์อย่างยิ่ง ด้วยว่ามนุษย์ต้องพึ่งพาการผลิตสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน หรือเรียกรวมว่าปัจจัยสี่ โดยสิ่งที่สามารถผลิตปัจจัยสี่ให้ดี มีคุณภาพและไม่ก่ออันตราย หรือก่ออันตรายให้กับร่างกายและทรัพย์สินน้อยที่สุด

อุตสาหกรรมแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

สามารถแบ่งประเภทอุตสาหกรรมได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่…

●อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ คือ อุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้ทั้งแรงงานมนุษย์, เครื่องจักร, อุปกรณ์ รวมทั้งเงินทุนจำนวนมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมถลุงเหล็ก, ผลิตเหล็กกล้า เป็นต้น

●อุตสาหกรรมขนาดย่อม คือ อุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานมนุษย์, เครื่องจักร, อุปกรณ์ รวมทั้งเงินทุนน้อยกว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยส่วนมากแล้ว จะเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตข้าวของเครื่องใช้ – เครื่องอุปโภคทั่วๆไป เช่น ผลิตน้ำปลา, ผลิตน้ำตาล เป็นต้น

●อุตสาหกรรมในครัวเรือน จะเป็นการประกอบกิจการภายในครอบครัว ภายในบ้านที่อยู่อาศัย โดยเป็นอุตสาหกรรม ซึ่งใช้แรงงานเป็นส่วนใหญ่ ในการสร้างผลิตภัณฑ์ ซึ่งใช้ความชำนาญทางฝีมือ ยกตัวอย่างเช่น จักสาน, แกะสลัก เป็นต้น

8 อุตสาหกรรมส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย

●รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 180,369.7 ล้านบาท คิดเป็น 10.6%

●เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 130,652. ล้านบาท คิดเป็น 7.7%

●น้ำมันสำเร็จรูป 89,127.7 ล้านบาท คิดเป็น 5.2%

●ยางพารา 71831.7 ล้านบาท คิดเป็น 4.2%

●เม็ดพลาสติก 69,751.5 ล้านบาท คิดเป็น 4.1%

●เคมีภัณฑ์ 69,613.9 ล้านบาท คิดเป็น 4.1%

●เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 67,747.1 ล้านบาท คิดเป็น 4.0%

อุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน

●อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ เนื่องจากจำนวนเครื่องบินที่มากขึ้นต้องการการซ่อมแซม และมีการขนส่งทางอากาศมากมากขึ้น นอกจากนี้ประเทศไทยมีสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินอื่นๆ ที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างอุตสาหกรรมการบินในอนาคตได้เป็นอย่างดี

●อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เป็นสิ่งที่น่าลงทุนเป็นอย่างมากเพราะโลกกำลังต้องการความยั่งยืน และทั่วโลกกำลังกำหนดมาตรฐานด้านชีวภาพเข้ากับการค้า คือถ้าการผลิตไม่หันมาใช้เคมีชีวภาพ เช่น ไบโอพลาสติก ในการหีบห่อ ก็อาจจะส่งออกไม่ได้ ซึ่งประเทศไทยเหมาะสมเป็นเพราะว่าเรามีฐานการเกษตรใหญ่ที่สุดในอาเซียน ถ้าเราไม่ลงทุน ประเทศอื่นก็จะลงทุน

●อุตสาหกรรมดิจิทัล ด้วยความต้องการทางด้านเทคโนโลยีที่มีความต้องการสูงมากในปัจจุบันและเป็นมาตรการฐานใหม่ในการดำรงชีพ อย่างธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การทำอุตสาหกรรมด้านนี้จึงน่าสนใจเป็นอย่างมากนั้นเองครับ  ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่มีความพร้อมที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนต่อยอดเทคโนโลยีได้เลย

●อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมในด้านการรักษาเป็นอะรที่ต่อยอดได้เป็นอย่างมาก เพราะพยาบาล เรามีหมอ พยาบาล ที่เก่งในระดับโลกเลยก็ว่าได้ครับ สามารถเพิ่มการลงทุนในการผลิตยา อุปกรณ์การแพทย์ และระบบการรักษาพยาบาลระยะไกล เพราะมีผู้สูงอายุเยอะขึ้นทั่วเอเชีย จึงทำให้อุตสาหกรรมนี้ไปได้ไกลในอนาคตนั้นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?” ที่เราได้หามากฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ เราหวังว่าจะชอบและเป็นประโยชน์กันนะครับ